ลบ แก้ไข

ไทยจับมือออสเตรเลียร่วมมือวิจัยด้านวิทย์

 
  สำนักงานการศึกษาออสเตรเลียแห่งนานาชาติ สถานทูตออสเตรเลีย กรุงเทพฯ ร่วมกับ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ประเทศไทย (นาโนเทค) จัดงานสัมมนาไทย-ออสเตรเลีย ในหัวข้อ มิติใหม่ของวัสดุนาโนเพื่อสมบัติเฉพาะทางขั้นสูง ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ โดยกิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลอง 60 ปี ความสัมพันธ์ทวิภาคี ออสเตรเลีย ? ไทยในปีนี้ งานซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ มี ฯพณฯ เจมส์ ไวส์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และ ศ. ดร. นพ. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ร่วมพิธีเปิดงานสัมมนา ?วัตถุประสงค์ของการจัดงานสัมมนาไทย-ออสเตรเลียครั้งนี้คือการนำนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของไทยและออสเตรเลียมาแลกเปลี่ยนความรู้และแนวความคิดในการวิจัย รวมทั้งมองหาโอกาสในการทำวิจัยร่วมกัน? ศ. ดร. นพ. สิริฤกษ์ กล่าว ?ความสัมพันธ์ด้านความร่วมมือในการวิจัยระหว่างออสเตรเลียและไทยนั้นได้รับการสนับสนุนจากข้อตกลงความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐบาลออสเตรลียและไทย ปี พ.ศ. 2547 และในปี พ.ศ. 2553 ออสเตรเลียนับเป็นพันธมิตรที่มีความร่วมมือกับไทยบ่อยครั้งที่สุดเป็นอันดับที่สี่ โดยมีส่วนร่วมคิดเป็น 4.6 เปอร์เซ็นต์ของผลงานวิจัยร่วมที่ได้รับการตีพิมพ์ระดับนานาชาติ เราหวังว่าความสัมพันธ์ในด้านความร่วมมือนี้จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปในอนาคต? เอกอัครราชทูตไวส์ กล่าว การสัมมนาครั้งนี้มุ่งเน้นประเด็นด้านวัสดุนาโนสำหรับอุปกรณ์ตรวจจับและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์? วัสดุนาโนเพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อม และการวิเคราะห์และจัดลักษณะนาโน มีผู้เข้าร่วมได้แก่ผู้แทนและนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออสเตรเลียชั้นนำด้านเทคโนโลยีและการวิจัย เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ซิดนีย์ มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ มหาวิทยาลัยเซาท์ ออสเตรเลีย องค์กรเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย (CSIRO) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และนาโนเทค ฯพณฯ เจมส์ ไวส์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย (แถวหน้า กลาง) ศ. ดร. นพ. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (แถวหน้า ที่ห้าจากซ้าย) สก็อต เอวานส์ ที่ปรึกษาทูตด้านการศึกษา สำนักงานการศึกษาออสเตรเลียแห่งนานาชาติ (แถวหน้า ที่สี่จากซ้าย) และผู้แทนจากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยในไทยและออสเตรเลีย  
 



TOP RELATED


NEW STORIES


Comment