ลบ
แก้ไข
สุดยอดมหาวิทยาลัยสอนดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา
สวัสดีชาว Interscholarship?ครับ?มองการศึกษาโลก วันนี้จะพาทุกคนมารู้จัก 15 มหาวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับจาก?US News And World Report ประจำปี 2013?ว่ามีคุณภาพของการสอนดีเลิศที่สุดในสหรัฐอเมริกาครับ การเรียนระดับมหาวิทยาลัยนั้นอาจารย์ผู้ถ่ายทอดความรู้และมีทักษะในการสื่อสารบทเรียนไปยังผู้ฟังอันได้แก่นักศึกษาได้นั้นถือว่าเป็นผู้เปิดความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆให้กับบรรดานักศึกษาครับ และถ้ามีอุปกรณ์การเรียนที่เพรียบพร้อมไว้คอยสนับสนุนการศึกษาของนักศึกษาอีกด้วยแล้วหละก็ย่อมเป็นแรงผลักดันให้ผู้เรียนสามารถตักตวงความรู้และนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพทีเดียว
เรามาดูกันดีกว่าครับว่าสุดยอด 15 มหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่ามีคุณภาพการสอนในระดับปริญญาตรีดีเลิศที่สุดของสหรัฐอเมริกา จะมีที่ใดบ้าง อันดับที่ 15?Stanford University
มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University : สแตนเฟิร์ด)?มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า มหาวิทยาลัยลีแลนด์สแตนฟอร์ดจูเนียร์ (Leland Stanford Junior University) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สแตนฟอร์ดตั้งอยู่ในศูนย์กลางของซิลิคอนแวลลีย์ในเคาน์ตีซานตาคลารา มหาวิทยาลัยก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1885
สแตนฟอร์ดถูกจัดให้อยู่ในระดับ เดียวกับ Harvard, Yale, Princeton, MIT, Caltech บางครั้งเรียกย่อ ๆ ในกลุ่มเด็กนักเรียน High School ว่ากลุ่ม HYPSMC หมายถึงกลุ่มมหาวิทยาลัยที่สมัครเข้าเรียนยาก นอกจากนี้สแตนฟอร์ดยังได้รับการขนานนามให้เป็นหนึ่งในสามมหาวิทยาลัยชั้นนำทางเทคโนโลยี นอกเหนือจาก MIT และ Caltech และยังมีนักวิจัยรางวัลโนเบลจำนวนมาก โดยเฉพาะในสาขาฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ และเศรษฐศาสตร์ครับ?
อันดับที่ 13?Wake Forest University?
มหาวิทยาลัยเวคฟอเรสต์ (Wake Forest University)?เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1834 อยู่ในรัฐ?North Carolina มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงในด้านบริหารธุรกิจเป็นอย่างมากในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทจาก 2 โรงเรียนธุรกิจของมหาวิทยาลัย อันได้แก่??Babcock Graduate School of Management และ Calloway School of Business and Accountancy อีกทั้งโรงเรียนกฎหมาย (Wake Forest School of Law) และโรงเรียนสอนศาสนาศึกษา (Wake Forest School of Divinity) ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน
อันดับที่ 13?University of North Carolina, Chapel Hill
มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา แชเปิลฮิลล์ (University of North Carolina at Chapel Hill)?เป็นมหาวิทยาลัยรัฐในเมืองแชเปิลฮิลล์ ?รัฐนอร์ทแคโรไลนา รู้จักในชื่อย่อว่า มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา หรือ ยูเอ็นซี (UNC)?โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1789 อีกทั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยแรกในระบบเครือของมหาวิทยาลัยเอง UNC มีชื่อเสียงในด้านแพทยศาสตร์ เภสัชกรรมศาสตร์ และวิศวกรรมวัสดุ เป็นต้น
อันดับที่?8?University of Notre Dame
มหาวิทยาลัยนอเตอร์เดม (University of Notre Dame)?เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนโรมันคาทอลิก ในเมืองนอเตอร์เดม ก่อตั้งในปีค.ศ. 1842 สำหรับคำว่า นอเตอร์ดัม (Notre Dame)?นั้น ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง พระนางมารีอา แต่ในสหรัฐอเมริกานิยมเรียกว่า นอเตอร์เดม บรรยากาศรอบมหาวิทยาลัยเงียบสงบและมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงในสาขาวิชาด้านรัฐศาสตร์ และภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังมีคณะยอดฮิตทางด้านศาสนาศึกษาอีกด้วย
อันดับที่?8?University of Maryland, Baltimore County
มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ บัลติมอร์คันทรี (University of Maryland, Baltimore County)?ก่อตั้งในปีค.ศ. 1966 เป็นหนึ่งในเครือมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่ มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุนเพื่อการศึกษา อีกทั้งยังมีชื่อเสียงด้านศิลปะ วิทยาการคอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษ เพศสภาวะและสตรีศึกษา นิเทศศาสตร์ รัฐศาสตร์ และปรัชญา เป็นต้น
อันดับที่ 8?University of Chicago
มหาวิทยาลัยชิคาโก (University of Chicago หรือที่เรียกโดยย่อว่า UC หรือ UofC)?ตั้งอยู่ในชุมชนไฮด์พาร์ก (Hyde Park) ใจกลางเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ชิคาโกเน้นการวิจัย (Research University) เป็นหลัก และมีชื่อเสียงด้านการวิจัยมากที่สุดเป็นแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกาและของโลก โดยเฉพาะในด้านวิชาการ และผลงานวิจัยทั้งทางวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกาที่มีผู้เกี่ยวข้องได้รับรางวัลโนเบลเป็นจำนวนมากที่สุด
อันดับที่ 8?University of California, Berkeley
มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (University of California, Berkeley)?มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเมืองเบิร์กลีย์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1868 โดยเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในบรรดากลุ่มมหาวิทยาลัยในแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์มีชื่อเสียงในหลากหลายด้าน ประวัติศาสตร์ วรรณกรรม วิทยาศาสตร์ รวมถึงมีการค้นพบไซโคลตรอน (cyclotron) โดย เออร์เนสต์ ลอว์เรนซ์ และมีการค้นพบธาตุเคมี 17 ธาตุใหม่ รวมถึง พลูโตเนียม แคลิฟอร์เนียม การพัฒนาอินเทอร์เน็ต การพัฒนายูนิกซ์ BSD และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซอีกด้วย
อันดับที่?8?Duke University
มหาวิทยาลัยดุ๊ก (Duke University)?ตั้งอยู่ที่เมืองเดอแรม ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1838 มหาวิทยาลัยดุ๊กมีชื่อเสียงในด้านวิชาการหลายด้าน ซึ่งได้แก่ ด้านกีฬา โดยได้รับชนะเลิศบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศถึง 4 ครั้ง?มหาวิทยาลัยดุ๊กประกอบด้วยคณะและวิทยาลัยจำนวน 10 แห่ง ทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Fuqua School of Business, Pratt School of Engineering, School of Law, School of Medicine, Sanford School of Public Policy และ School of Nursing นอกจากนี้หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ได้แก่ โรงเรียนศาสนา (Divinity School) และ โรงเรียนด้านสิ่งแวดล้อมศึกษา (Nicholas School of the Environment)?
อันดับที่?6?College of William and Mary
วิทยาลัยวิลเลี่ยมและแมรี่ (College of William and Mary)?ก่อตั้งในปีค.ศ. 1693 ในอาณานิคมและเขตการปกครองรัฐเวอร์จิเนีย โดย King William III และ Queen Mary II ของอังกฤษ ประธานาธิบดี ?Thomas Jefferson ?John Tyler และ James Monroe ได้รับปริญญาจากวิทยาลัยแห่งนี้วิทยาลัยยังมีชื่อเสียงในการก่อตั้งชมรมและกลุ่มสังคมขึ้นในสหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรก โดยใช้อักษร Phi Beta Kappa ซึ่งเริ่มระหว่างการปฏิวัติในปี ค.ศ. 1776
อันดับที่ 6?University of Michigan Ann Arbor
มหาวิทยาลัยมิชิแกน แอนน์อาร์เบอร์ (University of Michigan, Ann Arbor)?เป็นมหาวิทยาลัยรัฐ ตั้งอยู่ในเมืองแอนน์อาร์เบอร์ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา มิชิแกนก่อตั้งในปี ค.ศ. 1817 ?มิชิแกนเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐมิชิแกน และได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในอันดับต้นของประเทศในหลายสาขาวิชา ทั้งทางด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรมและผังเมือง กฎหมาย บริหาร วิทยาศาสตร์ แพทยศาสตร์ และดนตรี และมิชิแกนยังเคยได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่ค่าเล่าเรียนแพงที่สุดในสหรัฐอเมริกาสำหรับนักศึกษาที่ภูมิลำเนาไม่ได้อยู่ในรัฐมิชิแกนอีกด้วยครับ?
อันดับที่ 4?Brown University
มหาวิทยาลัยบราวน์ (Brown University)?เป็นหนึ่งในกลุ่มมหาวิทยาลัยไอวีลีก ตั้งอยู่ที่เมืองโพรวิเดนซ์ รัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1764 ในชื่อ "วิทยาลัยโรดไอแลนด์" (College in the English Colony of Rhode Island and Providence Plantations) นับเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่เป็นอันดับที่ 3 ของนิวอิงแลนด์ และเป็นลำดับที่ 7 ของสหรัฐอเมิรกา อีกทั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยแรกที่รับนักศึกษาโดยไม่จำกัดเชื้อชาติศาสนา บราวน์เป็นมหาวิทยาลัยแรกในกลุ่มไอวีลีกที่เป็นสอนสาขาวิศวกรรมศาสตร์?
อันดับที่ 4?Yale University
มหาวิทยาลัยเยล (Yale University)?เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ในเมืองนิวฮาเวน รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งใน ค.ศ. 1701 เยลเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่อันดับที่ 3 ของสหรัฐอเมริกาและยังเป็นหนึ่งในกลุ่มไอวีลีกอีกด้วย เรียนต่อด้านกฎหมายและดนตรีที่เยลไม่ผิกหวังแน่นอนเพราะที่นี่การันตีคุณภาพอาจารย์และชื่อเสียงไม่เป็นสองรองใคร
อันดับที่ 3?Miami University
มหาวิทยาลัยไมอามี (Miami University)?เป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1809 มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงทางด้านนิเทศศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ สาขาเคมี บัญชี เศรษฐศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ เป็นต้น
อันดับที่ 1?Princeton University
มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (Princeton University)?ตั้งอยู่ที่เมืองพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1746 เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่อันดับ 4 ของประเทศ?ถึงแม้ว่ามหาวิทยาลัยพรินซ์ตันจะมีการเปิดสอนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันมาจากการศึกษาในระดับปริญญาตรีครับ นอกจากนี้ยังคงได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีห้องสมุดใหญ่เป็นอันดับต้นของโลกอีกด้วย มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงทางด้าน เศรษฐศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ และรัฐศาสตร์ เป็นต้น
อันดับที่ 1?Dartmouth College
วิทยาลัยดาร์ทมัธ (Dartmouth College)?ก่อตั้งในปีค.ศ. 1769 และเป็นวิทยาลัยที่เก่าแก่เป็นลำดับที่ 9 ของมหาวิทยาลัยในยุคก่อนปฏิวัติอเมริกา และเป็นวิทยาลัยลำดับสุดท้ายที่ได้สถาปนาเป็นวิทยาลัยก่อนการปฏิวัติอเมริกาครับ ดาร์ทมัธมีชื่อเสียงในด้านแพทยศาสตร์ และบริหารธุรกิจ โดยในด้านบริหารธุรกิจนั้นได้ถูกจัดอันดับให้อยู่ในลำดับ TOP 5 ของประเทศทุกปี
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แปล/เรียบเรียง?: ต้นซุง Eduzones
ขอบคุณข้อมูล?:?Huff Post College?และ?U.S. News
ขอบคุณรูปภาพ?:?U.S. News
ชนิตสิรี แก้วอุด
ชม 13 ครั้ง
TOP RELATED
NEW STORIES