เจาะลึกนโยบายการศึกษา "บารัค โอบามา" สมัย 2 ชี้ชะตาสหรัฐอเมริกาจะรุ่งหรือล่วง

สวัสดีชาว Interscholarship?ทุกคนครับ พบกับ?มองการศึกษาโลก ?อีกครั้งหนึ่งครับ วันนี้เรามามองการศึกษาที่สหรัฐอเมริกาหลังจากที่ผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาโดย บารัค โอบามา ได้คว้าชัยชนะเหนือนายมิตต์ รอมนีย์ ได้สำเร็จ และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นสมัยที่สองสำเร็จครับ สำหรับวงการการศึกษาแล้ว นักวิชาการด้านการศึกษาทั่วโลก ได้มีความตื่นตัวและสนใจการจัดการปัญหาด้านการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพ รวมถึงนโยบายในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสหรัฐอเมริกาอย่างใจจดใจจ่อ เพราะประเทศสหรัฐอเมิรกาเปรียบได้กับศูนย์กลางทางการศึกษาในโลกที่ใช้ภาษาอังกฤษที่ใหญ่ที่สุด และมีสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลกมากมายที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติครับ เรามาดูกันดีกว่าครับว่าการศึกษาซึ่งเปรียบได้กับพื้นฐานที่สำคัญของการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญรุ่งเรืองในอนาคตนั้น รัฐบาลบารัค โอบามา จะมีวิธีในการรับมือและจัดการเพื่อเป้าหมายซึ่งเป็นอนาคตที่สดใสของชาวอเมริกัน รวมถึงโอกาสของนักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะเราคนไทยนั้นจะมีทิศทางและโอกาสทางการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างไรต่อไปในอนาคตครับ การศึกษาระดับปฐมวัย (Early Childhood Education) ในช่วงปีแรกของการศึกษาเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด ประธานาธิบดีโอบามามีวิสัยทัศน์ว่า การลงทุนเพื่อพัฒนาด้านการศึกษาในเด็กวัยนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เด็กพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาได้อย่างเต็มที่และเป็นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อให้เด็กประสบความสำเร็จในวิชาการด้านที่พวกเขาสนใจอันนำไปสู่การปฏิบัติในชีวิตจริงอย่างมีประสิทธิภาพ เด็กเป็นทรัพยากรล้ำค่าในการลงทุนทางการศึกษา สำหรับครอบครัวผู้ด้อยโอกาสทุนการศึกษาเป็นปัจจัยที่สำคัญเพื่อวางรากฐานให้เด็กจากครอบครัวเหล่านี้ประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาตลอดจนการใช้ชีวิตของพวกเขา ประธานาธิบดีโอบามายังเน้นเรื่องการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้เพื่อการศึกษาในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา ซึ่งนอกจากนี้เขายังสนับสนุนเงินทุนมหาศาลเพื่อบริการในหลายด้านสำหรับเด็กอายุระหว่าง 0-5 ปีอีกด้วย การศึกษาระดับประถมและมัธยมศึกษา (K-12 Education) การแข่งขันในเวทีเศรษฐกิจโลกในวันนี้จำเป็นที่ต้องให้นักเรียนมีคุณภาพทางการศึกษาในระดับสูง เพื่อที่จะทำให้นักเรียนประสบความสำเร็จในชีวิตต่อไป โดยเขาจะให้ความสำคัญกับนักเรียนชาวอเมริกันทั้งหมดโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา และสีผิว ทั้งนี้โอบามาได้กำหนดเป้าหมายให้?สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำการศึกษาโลก (world leader in education by 2020) ในปี 2020?โดยการให้การศึกษาอย่างครบวงจรแก่เด็กทุกคน เพื่อให้พวกเขาประสบความสำเร็จในเวทีเศรษฐกิจโลก โอบามายังผลักดันนโยบายเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารและนวัตกรรม ตามนโยบาย 4 ด้าน ดังนี้ 1. ปรับปรุงระบบและมาตรฐานการศึกษาขั้นสูงเพื่อช่วยให้นักเรียนประสบความสำเร็จในการเรียนและในการทำงาน 2. มีความพยายามในการคัดเลือก ฝึกอบรมและพัฒนาครูและผู้บริหารสถานศึกษา โดยเฉพาะในห้องเรียน สถานที่ซึ่งสำคัญที่สุด 3. ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลเพื่อวัดอัตราการเจริญเติบโตและการวัดศักยภาพทางวิชาการของนักเรียนเพื่อช่วยเสริมสร้างสื่อการเรียนการสอนคุณภาพ 4. ช่วยเหลือสถาบันการศึกษาที่มีอัตราการประสบความสำเร็จทางด้านวิชาการต่ำให้มีศักยภาพสูงขึ้น นอกจากนี้ประธานาธิบดีโอบามายังช่วยเหลือเด็กที่อยู่ในครอบครัวรายได้ต่ำและปานกลางผ่านทุนช่วยเหลือ?"Pell Grant program" โดยมีการประมาณการในการให้ทุนถึง 40 พันล้านดอลล่าร์ เพื่อสนับสนุนนักเรียน 10 ล้านคน ?การศึกษาระดับอุดมศึกษา (College Education) แม้ว่าจะมีสถิติแสดงให้เห็นว่าวหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 9 ของประเทศที่มีอัตราการลงทะเบียนของนักเรียนมหาวิทยาลัยมากที่สุด แต่ก็ยังมีข่าวที่แย่กว่านั้นเมื่ออัตราของผู้ที่ได้รับปริญญาและใบประกาศนียบัตรอยู่ในอันดับที่ 16 ของประเทศที่มีนักเรียนเรียนจบการศึกษามหาวิทยาลัยสูงสุดในช่วงอายุ 25-34 ปี โดยตามหลังแคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และประเทศอื่นๆอีกมากมายในจำนวนนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย โดยเหตุผลหนึ่งเป็นเรื่องของช่องว่างของความมั่นคง?(wealth gap)?สำหรับนักเรียนที่มาจากครอบครัวที่ยากจนในความพยายามที่จะเรียนต่อในระดับสูง โดยสถิติแสดงให้เห็นว่ามีนักเรียนที่มีจากครอบครัวรายได้ต่ำเพียงแค่ร้อยละ 25 เท่านั้นที่ได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ประธานาธิบดีโอบามาได้สร้างความท้าทายทางการศึกษาโดยมีทัศนะในการสร้างหลักสูตรอบรมหลังการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายและหลังจากจบการเรียนระดับมหาวิทยาลัย?(post-secondary training or a higher education)อย่างน้อย 1 ปี ?ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สะท้อนเป้าหมายของความสำเร็จในการเป็นชาติที่มีบัณฑิตสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษามากที่สุดในปี 2020 การปฏิรูปการศึกษาในอนาคต (Future Reforms) ความต้องการของประเทศที่จะเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจให้ดีขึ้นจำเป็นที่จะต้องอาศัยความรู้ความชำนาญ ความคิดสร้างสรรค์ของหนุ่มสาวสมัยใหม่อันเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ทำให้รัฐบาลอเมริกันประสบความสำเร็จ โอบามาสนใจการพัฒนาการศึกษาในเด็กซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาเมื่อมุ่งให้เด็กมีความเข้มแข็งทางการศึกษาแล้วนั้นจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสะท้อนอนาคตอันจะทำให้ผลสำเร็จนั้นบรรลุได้ง่าย นโยบายของประธานาธิบดีโอบามาได้สร้างความมั่นใจให้กับนักเรียนทุกคนในเรื่องการศึกษา นอกจากนี้นโยบายของเขายังได้กำหนดเป้าหมายในการประเมินนักเรียนและประเมินครู โอบามาเชื่อว่า "ไม่มีนวัตกรรมใดที่สร้างเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งได้เท่ากันนโยบายทางการศึกษาในทุกระดับ"และแน่นอนตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาและจะเป็นการสร้างระบบการศึกษาใหม่ที่สำคัญส่งผลไปทั่วโลก บทความแปล/เรียบเรียง?โดย?ต้นซุง Eduzones ขอบคุณข้อมูลและอ่านเพิ่มเติมได้ที่?: