หลังจากรัฐบาลมาเลเซียประกาศจำนวนที่นั่งเรียนของมหาวิทยาลัยของรัฐเมื่อสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก็ก่อให้เกิดข้อครหา และเสียงทักท้วงจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวมาเลย์เชื้อสายจีนและอินเดีย เพราะเด็กจีนมีจำนวนที่นั่งในมหาวิทยาลัยเพียง 19% ขณะที่อินเดีย 4% ทั้งที่นักเรียนเหล่านี้บางคนทำคะแนนสูงสุด ก็ยังไม่ได้ที่เรียนที่ตนหวัง
จากการสำรวจจำนวนประชากรล่าสุด ประเทศมาเลเซียมีประชากรเชื้อสายจีน 23% และ อินเดีย 7 % ขณะที่เชื้อสายมาเลย์นั้นมี 60% ซึ่งชนส่วนใหญ่นี้ ได้ชื่อว่าเป็นบุตรของแผ่นดิน หรือ
Bumiputras
Jaspal Singh ผู้นำคนเชื้อสายอินเดียนในสภามาเลเซียน-อินเดียน กล่าวว่า การแบ่งโควต้าจำนวนนักเรียนของรัฐบาลในการรับนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องอยุติธรรม และลำเอียงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมาเลเซียเลยทีเดียว ซึ่งชาวเชื้ออินเดียควรได้รับการรับเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้ 3,000 ที่ ไม่ใช่แค่จัดสรรให้ ประมาณ 1,500 ที่ ขณะที่เด็กเชื้อสายจีนเอง ก็โดนลดจำนวนลงในช่วงปีหลัง ๆ นี้เหลือเพียง 19% จากเดิมที่ได้ประมาณ 25%
ขณะที่
Lim Guan Eng รัฐมนตรีประจำรัฐปีนังซึ่งเป็นเลขาธิการใหญ่ของพรรคฝ่ายค้าน DAP ที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากคนเชื้อสายจีน และชาวอินเดียบางส่วน กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นความไม่ยุติธรรมที่เจ็บปวดสำหรับคนส่วนน้อยของประเทศ โดยชี้ว่า นับจากประเทศมาเลเซียได้อิสระภาพมา 56 ปี มันควรจะเป็นเวลาที่พรรคการเมืองต่าง ๆ และกระทรวงศึกษาธิการควรเลิกความคิดในเรื่องเชื้อชาตินิยมได้แล้ว ควรหันไปเน้นเรื่องคุณภาพของนักเรียน ปัญหาก็คือทำไมนักเรียนที่มีความสามารถจึงไม่ได้รับโอกาสในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยของรัฐ
Lim เสริมอีกว่า ประเทศกำลังจะเสียเด็กที่มีพรสวรรค์หรือเก่งที่สุดจำนวนหนึ่งไป เพราะพวกเขาเสมือนถูกผลักดันไห้ไปเรียนต่างประเทศ แน่นอนว่าสิงคโปร์จะเป็นชาติที่ได้โอกาสดีที่สุด ในการฉกฉวยเด็กเก่งเหล่านี้ไป
จากตัวเลขของภาครัฐ ปีนี้ จะมีนักเรียนลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐทั้งสิ้น 41,573 คน ซึ่งในจำนวนนี้ มีนักเรียนเชื้อจีน เพียง 7,913 คนเท่านั้น ทั้งที่ปีก่อน มีถึง 8,985 คน
แหล่งข่าว : Emilia Tan and Yojana Sharma,University World News