ประเทศเวียดนามกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ 2 เรื่อง ในแวดวงการศึกษา หลังจากบัณฑิตชุดใหม่กำลังจะจบการศึกษาออกมาในช่วงนี้ อย่างแรกประชากรวัยหนุ่มสาวของประเทศตกงานเพิ่มขึ้น อย่างที่สองคือสภาพบัณฑิตล้นตลาดแรงงาน ทำให้พวกเขาไม่สามารถหางานที่ตรงกับทักษะของตนได้
จากสถิติเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เวียดนามมีตัวเลขบัณฑิตว่างงาน 165,000 คน หรือ 17% ของผู้ไม่มีงานทำทั้งประเทศ
รายงานจากศูนย์คาดการณ์ความต้องการกำลังคนและข้อมูลตลาดแรงงาน ของนครโฮจินมินห์ ซิตี้ เผยว่า ในเดือนมิถุนายนปีนี้ จะมีบัณฑิตใหม่ที่สามารถหางานทำได้ภายหลังจบการศึกษา 2-3 เดือนแค่ประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ปัญหาความไม่สมดุลกันระหว่างตำแหน่งงานกับผู้จบการศึกษา หรือ คนวัยหนุ่มสาว เริ่มแสดงให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากประเทศประสบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงในปี ค.ศ.2010
มีตัวอย่างของบัณฑิตที่ได้งานไม่ตรงกับทักษะตนเองให้เห็นมากมาย เช่น Le Thi Huyen ที่จบมาทางด้านการเงินการธนาคาร แต่จำต้องยอมรับการทำงานในตำแหน่งที่ต่ำกว่า คือเป็นแคชเชียร์ในภัตตาคารเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เพื่อเป็นการฆ่าเวลาระหว่างรอโอกาสที่ดีกว่า
ยังมีบัณฑิตด้านวิศวกรรมหลายคน ที่ต้องไปขับแท็กซี่ หรือ บัณฑิตบางสาขาที่ไปทำงานเสิร์ฟในภัตตาคาร หรือ ซูเปอร์มาร์เกต
มีผู้สันทัดกรณีหลายคน วิจารณ์ว่า ต้นตอของปัญหา มาจากการที่ภาครัฐขยายระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มากเกินไป ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทำให้เกิดปัญหาบัณฑิตล้นตลาดแรงงาน…
แหล่งข่าว Hiep Pham,ตีพิมพ์ 13 July 2013,UniversityWorldNews