เรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยในมหาวิทยาลัยในประเทศจีน ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการใช้สารอันตรายและสารพิษต่าง ๆ ในห้องทดลอง หลังจากเกิดกรณีวางยาพิษนักศึกษาในเซียงไฮ้ และระเบิดในห้องทดลองที่มหาวิทยาลัยหนานจิง เมื่อเร็ว ๆ นี้
ในประเทศจีนช่วงนี้ แวดวงบล็อกตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้มีการเผยแพร่สู่สาธารณชนในวงกว้าง เกี่ยวกับ 2 เหตุการณ์ที่กำลังได้รับการวิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ในเหตุการระเบิดในมหาวิทยาลัยหนานจิง และ การวางยาพิษที่มหาวิทยาลัยฟูตั้น ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ส่งผลให้กระทรวงศึกษาธิการของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกประกาศบนเว็บไซต์ของกระทรวงฯ ให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ปรับปรุงมาตรการในการจัดเก็บ การใช้ เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอันตรายต่าง ๆ ที่ใช้ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์
ประกาศของกระทรวงฯครั้งนี้มีผลไปยังหน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องมีกระบวนการที่เหมาะสม และควบคุมความปลอดภัยในกิจกรรมที่เกี่ยวกับสารเคมีต่าง ๆ นับตั้งแต่การจัดซื้อ การเก็บรักษา การใช้ ไปจนถึงการทำลายสารเคมีเหล่านี้
เมื่อ 16 เมษายนที่ผ่านมา ฮวง หยาง นักศึกาแพทย์ศาสตร์ ระดับบัณฑิตศึกษา วัย 28 ปี ที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังของเซี่ยงไฮ้ คือ Fudan University ถูกวางยาพิษ และจบชีวิตลงที่โรงพยาบาล ในอีก 2 สัปดาห์ต่อมาซึ่งเป็นโศกนาฎกรรมที่เป็นข่าวดังไปอย่างกว้างขวาง และสร้างความเสียใจ และเห็นใจไปยังครอบครัวของฮวง เพราะเขาเป็นบุตรชายจากครอบครัวยากจน และเป็นลูกคนแรกที่มีโอกาสเรียนระดับมหาวิทยาลัย
ถ้อยแถลงของ Zhongshan Hospital โรงพยาบาลที่รักษาฮวง ได้แจ้งว่านักศึกษาหนุ่มเสียชีวิตเนื่องจากถูกวางยาพิษ และสื่อท้องถิ่นบางแห่งรายงานว่า มีข่าวรั่วออกมาว่า การตายของฮวง เกิดจากการได้รับสารพิษ N-Nitrosodimethylamine ซึ่งมีฤทธิ์ในการเข้าไปทำลายตับ
หนังสือพิมพ์ Shanghai Daily เผยว่า ตำรวจได้จับกุม หลิน เซนเฮา เพื่อนร่วมห้องของฮวง หลังถูกพบว่า เป็นผู้มีส่วนใส่สารพิษเข้าไปในระบบจ่ายน้ำดื่มในห้อง
นอกจากเรื่องระเบิดในห้องทดลอง และการวางยาพิษ ในเดือนเมษายนเช่นเดียวกัน นักศึกษาระดับปริญญาตรี ภาคการบินและอวกาศของ Nanjing University ถูกฆาตรกรรมโดยเพื่อนร่วมห้องจากปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ เหยื่อถูกแทงตาย หลังจากมีปากเสียงกับเพื่อน เพราะตนเองกำลังติดพันกับการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ จนไปเปิดประตูให้เพื่อนช้า...
แหล่งข่าว : Yojana Sharma/UniversityWorldNews