The International English Language Testing System หรือ IELTS ตอกย้ำจุดยืนของตนในฐานะผู้จัดการทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษของโลกที่มีผู้นิยมมากที่สุดโดยดป้าหมายหลักคือ เพื่อใช้ผลคะแนนในการยื่นสมัครศึกษาต่อขั้นสูงและเพื่อการย้ายถิ่นฐาน โดยในรอบ 12เดือนที่ผ่านมาได้ทำสถิติใหม่คือมียอดการสอบ IELTS มากถึง 2ล้านครั้งทั่วโลก
โดยจำนวนการสอบ2ล้านครั้งนั้นคิดเป็นยอดสอบที่เพิ่มขึ้น 11%จากปีก่อนหน้า และถือเป็นการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องของตัวเลขการสอบ IELTS มากถึง 18ปีติดต่อกัน
ตัวเลขการเติบโตดังกล่าวยังแสดงถึงความสนใจของสถาบันการศึกษา และองค์กรที่เกี่ยวข้องในการยอมรับผลการสอบ IELTS ว่าเป็นการสอบที่ใช้วัดความสามารถทางภาษาอังกฤษของผู้สมัครได้จริงและมีประสิทธิภาพ ในปัจจุบันมีจำนวนองค์กรมากกว่า 8,000แห่ง ทั่วโลกที่ยอมรับและมั่นใจในผลสอบจาก IELTS ซึ่งได้แก่ สถาบันการศึกษา บริษัทเอกชน สมาคมวิชาชีพ และหน่วยงานรัฐบาลใน 135ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งสถาบันและโปรแกรมมากกว่า 3,000รายการในสหรัฐอเมริกา
มร.แซค จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IELTS ประจำสหรัฐอเมริกา กล่าวในงานประชุมข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ ที่รัฐมิสซูรีว่า “ในจำนวนการสอบ IELTS กว่าสองล้านครั้งนั้น มีจำนวนผู้สอบที่ต้องการใช้ผลการสอบเพื่อยื่นสมัครกับมหาวิทยาลัย หรือองค์กรในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้มหาวิทยาลัยท้อปทั้ง 25แห่งของสหรัฐฯก็รับคะแนนสอบ IELTS เพื่อใช้คัดเลือกนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนต่อ”
สถิติจากทั่วโลกก็บ่งชี้เช่นกันว่า การสอบ IELTS เป็นที่นิยมอย่างสูงในหลากหลายประเทศ อาทิ จีน อินเดีย ซาอุดิ อาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตุรกี โดยนักเรียนเหล่านี้ใช้ผลสอบ IELTS เพื่อสมัครเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาในประเทศยอดฮิต ได้แก่ออสเตรเลีย แคนาดา สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเทศอื่นๆ
มร.จอห์น กิลเดีย หัวหน้าฝ่ายการสอบ IELTS จากบริติช เคานซิล กล่าวว่า “ยอดที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นปรากฏการณ์ทั่วโลกนี้ คงเป็นเครื่องยืนยันได้ถึงความนิยมในการสอบ IELTS ของกลุ่มผู้เข้าทดสอบ และองค์กรผู้รับสมัครที่ไว้วางใจการวัดคะแนนของ IELTS ที่เป็นตัวชี้วัดที่แม่นยำถึงความสามารถในการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษของผู้เข้าสอบ”