หลังจากตัวเลขจำนวนนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ไปเรียนที่สหรัฐ สร้างความพึงพอใจให้กับสหรัฐเป็นอย่างมากมาเป็นเวลา 1 ทศวรรษ ปรากฎว่า สถิติล่าสุดทำเอาวงการตะลึงเมื่อจากเคยเพิ่มขึ้น 9% เมื่อปี 2012 และ 11%ปี 2011 ลดวูบมาเหลือแค่ 1% ในปีนี้
รายงานจาก
Council of Graduate Schools หรือ CGSของสหรัฐ ในชื่อว่า 2013 CGS International Graduate Admissions Surveyถือเป็นการรายงานยอดตัวเลขนักเรียนนานาชาติที่ไปเรียนที่อเมริกาในระดับสูงกว่าปริญญาตรีครั้งล่าสุด โดยตัวเลข นักศึกษาจากจีน ที่เพิ่มขึ้นเพียง 1 % ครั้งนี้ถือเป็นสถถิติที่น้อยที่สุดในรอบ 8 ปี โดยปกติหากมีการลดลงแล้ว มักอยู่ที่ประมาณ 5% แต่ครั้งนี้ลดลงมากเกินความคาดหมาย ทั้งที่จีนได้ชื่อว่าเป็นชาติที่มีนักเรียนไปเรียนที่สหรัฐมากเป็นอันดับ 1
อย่างไรก็ตาม ยอดใบสมัครเข้าศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาจากชาติบางชาติก็ยังคงทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นปกติ เช่น อินเดีย ที่ได้ชื่อว่าเป็นชาติที่มีนักเรียนไปเรียนสหรัฐมากเป็นอันดับ 2 รองจากจีน ก็มีสถิติเพิ่มขึ้นที่ 20% โดยมีบราซิล เพิ่มขึ้นมากที่สุด 24% หลังจากเมื่อปีก่อนหน้านี้ มีตัวเลขอยู่ที่ 9%
ในส่วนอื่น ๆ จำนวนคนสมัครจากแอฟริกา และตะวันออกกลาง ยังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ความสนใจสมัครเรียนจาก เกาหลีใต้ ไต้หวัน แคนาดา เม็กซิโก และยุโรป เริ่มเบาบางลงไป
Debra Stewart ประธานของCGS กล่าวว่า การลดลงของนักเรียนจากประเทศจีนถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก ถึงแม้ว่าจะได้รับการชดเชยจากยอดที่เพิ่มขึ้นของจำนวนนักเรียนจากบราซิลและอินเดียก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักก็คืออเมริกาต้องไม่เพิกเฉยกับการขจัดอุปสรรคต่าง ๆ ที่มีต่อนักเรียนนานาชาติในการเดินทางมาเรียนที่นี่ ในขณะที่หลาย ๆ ชาติที่เป็นคู่แข่งของสหรัฐ กำลังพยายามลดเงื่อนไข หรือสิ่งที่เป็นปัญหากับการรับนักศึกษาต่างชาติลง
การเปิดเผยผลการสำรวจจำนวนนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่มาเรียนที่สหรัฐครั้งนี้ รวบรวมข้อมูลจากสถาบันอุดมศึกษาระดับสูงของสหรัฐ 276 แห่ง อย่างไรก็ตามก็มีการมองในอีกแง่มุมว่า คงยังไม่สามารถสรุปผลการสำรวจครั้งนี้อย่างแน่นอนทีเดียว เพราะการลดลงของจำนวนนักเรียนจากจีน ก็มักมีขึ้นเป็นปกติในช่วงของภาคการศึกษาของฤดูใบไม้ร่วง…
แหล่งข่าว : Alison Moodie,11April 2013,USA