มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน กำลังเจอแรงกดดันในเรื่องการปรับเปลี่ยนหลักสูตรในการเรียนการสอน หลังจากมีรายงานว่า มีบัณฑิตจำนวนมากเรียนหลักสูตรที่ตลาดแรงงานไม่ต้องการ ทำให้อัตราการตกงานของผู้จบการศึกษายังสูงอย่างน่าวิตก ล่าสุดกระทรวงศึกษาจีนประกาศไม่รับรอง 250 หลักสูตร ใน 60 สถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ
ตัวอย่างหลักสูตรที่โดนทางการสั่งแบน ซึ่งเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกระทรวงศึกษาธิการจีน ประกอบไปด้วย Golf industry management, Global health studies, Network security, Geriatric care และ Law enforcement ซึ่งหากสถาบันใด ต้องการจะจัดหลักสูตรเหล่านี้ในการเรียนการสอนต่อ ต้องแสดงข้อมูลเกี่ยวกับตลาดแรงงาน ให้ทางการทราบว่า ดำเนินการต่อไปแล้วจะสอดคล้องกับการได้งานทำของผู้จบการศึกษาอย่างไร
นอกจากนี้ คอร์สใดที่มีการเรียนการสอนได้อยู่ขณะนี้ หากปรากฎว่า มียอดผู้จบการศึกษาน้อยกว่า 60%ที่สามารถหางานทำได้ ก็จะถูกพิจารณาเพิกถอนสิทธิด้วยเช่นกัน เจ้าหน้าที่ของกระทรวงศึกษาจีนยังได้วิจารณ์ถึงการเรียนตามกระแสของกลุ่มนักเรียน เช่นการแห่กันไปเรียนหลักสูตรเกี่ยวกับแฟชั่นกันมากมาย โดยไม่พิจารณาว่าตนมีความสนใจหรือมีความถนัดจริง ๆ ในสาขาเหล่านี้ ขณะที่มหาวิทยาลัยจำนวนมากก็มักโหนกระแสนำเสนอคอร์สตามความนิยม ผลเสียที่ตามมาก็คือ มีผู้เรียนมากเกินไป ขณะที่ตลาดแรงงานมีตำแหน่งรองรับเพียงเล็กน้อย
หนังสือพิมพ์ The Oriental Morning Post newspaperซึ่งมีฐานการพิมพ์อยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ วิพากวิจารณ์เจ้าหน้าที่การศึกษาของรัฐที่ปล่อยปละละเลยให้สถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ จำนวนมาก จัดการเรียนการสอนในสาขาที่ไม่สอดรับกับตลาดแรงงานเลย ตัวอย่างคือ มีมหาวิทยาลัยถึง 15 แห่งในเซี่ยงไฮ้ที่สอนหลักสูตร Marxism and Applied Economicsเหมือนกัน ซึ่งเป็นสาขาที่อยู่เหนือความต้องการของตลาดแรงงาน
จากรายงานของกระทรวงศึกษษ หลักสูตรที่จะยังคงมีการเรียนการสอนต่อไป เพราะอยู่ในความต้องการของผู้จ้างงาน ได้แก่ Business administration, Electronic engineering, Oceanic science, Sociology, Nursing, Public health และ Design
แหล่งข่าว :Yojana Sharma/UniversityWorldNews,04 April 2013