มหาวิทยาลัยดังแห่งสิงคโปร์ National University of Singapore รักษาตำแหน่งมหาวิทยาลัย หมายเลข 1 ของเอเชียไว้ได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ในการจัดอันดับTimes Higher Education Asia University Rankings 2017 ส่วนไทยเป็น 1 ในหลายชาติที่น่าจับตามองเพราะมีผลงานดีขึ้นมาก ล่าสุดติดอันดับเข้ามา 10 แห่ง
           การจัดอันดับมหาวิทยาลัยในทวีปเอเชียของ THE ในปี 2017 ต่างจากปีที่ผ่านมาในเรื่องจำนวนมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดอันดับเพิ่มขึ้นจาก 200 แห่งมาเป็น 300 แห่ง เพราะพิจารณาเห็นว่า มีมหาวิทยาลัยจำนวนหลายแห่งที่มีคุณภาพดีขึ้นมากที่สามารถแข่งขันกับตัวแทนสถาบันอุดมศึกษาของชาติยักษ์ใหญ่เอเชียอย่างจีนหรือเกาหลีใต้
          ในการจัดอันดับครั้งนี้ซึ่งประกาศผลออกมาเมื่อเวลา 5 ทุ่มของวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ใช้ตัวชีวัด 13 ตัวเช่นเดียวกับ THE World University Rankings แต่ถูกปรับใหม่ให้สะท้อนถึงความสามารถของสถาบันของเอเชียโดยเฉพาะ โดยมหาวิทยาลัยต่างๆได้รับการตัดสินในทุกภารกิจหลักของพวกเขาคือการสอน,การวิจัย,การถ่ายทอดความรู้ และชื่อเสียงหว่างประเทศ เพื่อให้มีการเปรียบเทียบที่ครอบคลุมและมีความสมดุลมากที่สุด
        ผลการจัดอันดับปรากฎว่า National University of Singapore ยอดมหาวิทยาลัยของสิงคโปร์ที่มีอันดับสูงในการจัดอันดับโลกด้วยเช่นกัน สามารถรักษาอันดับ 1 ของเอเชียไว้ได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยมี Peking University และTsinghua University 2 มหาวิทยาลัยชั้นยอดของจีนตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามปีนี้ Malaysia, Indonesia, Pakistan และ Thailand แสดงศักยภาพให้เห็นว่ามีโอกาสเป็นศูนย์กลางการศึกษาอินเตอร์ได้ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยที่ปีนี้มีมหาวิทยาลัยติดอันดับเข้ามามากที่สุดในบรรดาชาติอาเซียน คือ 10 มหาวิทยาลัย นำโดยมหาวิทยาลัยมหิดล ในอันดับ 97 ที่โดดเด่นอีกแห่งคือสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบังที่มีผลงานเข้ามาอยู่ในท็อป 200 มีความแข็งแกร่งเกี่ยวกับการสร้างรายได้จากวงการอุตสาหกรรม ซึ่งหากวัดเฉพาะ Industry Income อย่างเดียวลาดกระบังติดอยู่ในพวกท็อป 30 ของเอเซียเลยทีเดียว
          อินโดนีเซีย มีมหาวิทยาลัยติดอันดับเพิ่มขึ้นเท่าตัว เป็น 2 แห่ง เทียบกับปีที่แล้วที่มีแห่งเดียว ขณะที่ปากีสถานมี 7 แห่ง เพิ่มขึ้น 2 ในทีนี้มี 2 แห่งติดท็อป 200 แต่หากจะมองเรื่องศักยภาพมหาวิทยาลัยในเอเชียจริง ๆ มาเลเซียถือเป็นชาติที่ดูดีที่สุด โดยมาเลเซียมีชื่อโชว์อยู่ในท็อป 200 ถึง 7 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4 แห่ง และมียอดรวมทั้งหมด 9 มหาวิทยาลัย
         สำหรับภาพรวมของการจัดอันดับครั้งนี้ ชาติที่มีสถาบันติดอันดับมากที่สุด ยังคงเป็นญี่ปุ่น 69 สถาบัน อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นกำลังเสียพื้นที่ให้กับชาติคู่แข่งมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดย จีน ฮ่องกง และอินเดียต่างทำสถิติเรื่องจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
1 ใน 4 มหาวิทยาลัยข้างต้นนี้ กำลังเปิดรับ และให้ทุนการศึกษาเต็มจำนวน คลิกที่นี่ เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม