เจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการของสาธารณรัฐประชาชนจีน แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้จบการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาของประเทศที่มากขึ้นอย่างน่าตกใจ ทำให้บัณฑิตระดับ Master และ PhD มีมากกว่าผู้จบการศึกษาที่ต่ำกว่า และต้องเผชิญกับปัญหาการว่างงานตามมา
จากสถิติของกระทรวงศึกษาธิการแสดงให้เห็นว่า? อัตราการจ้างงานในหมู่ผู้จบจากมหาวิทยาลัยที่สูงกว่าปริญญาตรี หรือ Postegraduate Degree มีน้อยกว่าผู้ที่จบระดับ Undergraduate มาเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันแล้ว นับตั้งแต่ปี ค.ศ.2009 แม้แต่มณฑลทางตอนใต้ของประเทศ คือ Guangdong ที่ได้ชื่อว่ามีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงก็ตาม ก็ยังปรากฎว่า คนจบโท-เอก มีโอกาสได้งานทำน้อยกว่าคนจบปริญญาตรี โดย
China Daily Newspaper หนังสือพิมพ์ชั้นนำของจีน ลงบทสรุปสั้น ๆ ว่า แนวโน้มของประเทศตอนนี้ คนจบปริญญาโท-เอก นั้น ไม่ใช่สิ่งได้เปรียบในการหางานทำอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัว ทำให้ตลาดแรงงานขยายตัวอย่างเชื่องช้า
ขณะที่การเปิดเผยตัวเลขล่าสุดของผู้ลงทะเบียนเรียนระดับบัณฑิตศึกษาในปีนี้จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 517,000 คน ซึ่งหากเปรียบเทียบในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ปรากฎว่าเพิ่มมากกว่าเท่าตัว โดยในปี 2003 มีผู้เรียนเพียง 220,000 คนเท่านั้น
จากผลการวิจัยของ
Wuhan University ในมณฑล Hubei เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่า ในบรรดาสถาบันอุดมศึกษา Top 10 ของประเทศ ซึ่งก็รวมมหาวิทยาลัยชั้นยอดอย่าง
Tsinghua และ Peking University ในปี 2011 แต่ละแห่งมักมีจำนวนผู้ที่จบระดับ Postgraduate มากกว่าจำนวนคนจบระดับ Undergraduate โดยเฉพาะ ม.ปักกิ่ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศนั้น ตัวเลขคนจบบัณฑิตศึกษามีมากกว่าถึง 2,500 คนทีเดียว
เหตุผลหนึ่งของปัญหา ก็คือ มหาวิทยาลัยจำนวนมาก ได้ขยายการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างรายได้ให้กับสถาบันที่มาจากค่าเรียน ซึ่งทำให้จำนวนผู้จบออกไปต้องพบกับความเสี่ยงในการเป็นผู้ตกงาน เพราะจำนวนตำแหน่งงานที่รองรับไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด?
แหล่งข่าว :
Yojana Sharma,28 October 2012