ทำไม การศึกษาญี่ปุ่นถึงพัฒนา ?

ทำไมเราจึงควรเรียนรู้การศึกษาของประเทศญี่ปุ่น ประเทศนี้มีอะไรดีหรือ??วันนี้มองการศึกษาโลกจะพาชาว?Interscolarship?ทุกคนมารู้จักกับการศึกษาในประเทศที่ขึ้นชื่อว่า มีคุณภาพการศึกษาที่มีคุณภาพอย่าง?"ประเทศญี่ปุ่น"?กันครับ

หลายคนอาจรู้จักญี่ปุ่นในหลากหลายมุมมอง เช่น ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่าไปเที่ยว มีทั้งภูเขาไฟฟูจิ ?ดอกซากุระที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ การอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนแบบญี่ปุ่น (onsen) รถไฟหัวกระสุนความเร็วสูง (shinkansen) ประเทศที่พ่ายแพ้สงครามโลก ถูกระเบิดปรมาณูทำลายที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=i4x7G_AOL8k&feature=player_embedded[/youtube]

รวมถึงเรื่องความมีระเบียบวินัย ซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา การเคารพผู้อาวุโส ขยัน มานะ และอดทน ของคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะเรื่องความมีระเบียบวินัย?จะเห็นได้ชัดเจนจากเหตุการณ์การเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และเกิดสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ครั้งนี้ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ สถานที่สำคัญต่างๆ มีคนตายจำนวนมาก รวมทั้งการขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม แต่คนญี่ปุ่นก็ยังไม่ละทิ้งความมีระเบียบวินัยแม้ในยามที่ประเทศตกอยู่ภาวะวิกฤต ดังจะเห็นได้จากการเข้าแถวรับของบริจาค การเข้าแถวซื้อของในร้านสะดวกซื้อ และการซื้อน้ำดื่มในจำนวนที่จำกัดต่อคนตามที่รัฐบาลขอความร่วมมือ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนญี่ปุ่นมีลักษณะอุปนิสัยเช่นนี้ คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากการศึกษาซึ่งเป็นรากฐานในการพัฒนาคน และพัฒนาประเทศชาติ

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? [youtube]http://www.youtube.com/watch?v=zkUFivvp0VM&feature=player_embedded[/youtube]

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศญี่ปุ่นได้มีการปฏิรูปการศึกษา โดยระบบการศึกษาเป็นแบบ?6-3-3-4 ?กล่าวคือ ระดับชั้นประถมศึกษา 6 ปี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 3 ปี และระดับอุดมศึกษา 4 ปี มีจุดประสงค์หลักเพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันทางการศึกษา สำหรับการศึกษาภาคบังคับได้ขยายจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ดังรายละเอียดในภาพที่ 1

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ?

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ภาพ ระบบการศึกษาของประเทศญี่ปุ่น
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ที่มาภาพ?http://www.mext.go.jp/english/introduction/1303952.htm?
มาตรฐานหลักสูตรของชาติได้ถูกจัดทำขึ้นโดยกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม การกีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (The Ministry of Education, Culture, Sports, Science and Technology : MEXT)?ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนทุกๆ 10 ปี ? สำหรับมาตรฐานหลักสูตรของชาติที่ใช้ในปัจจุบันเป็นมาตรฐานที่จัดทำเมื่อปี พ.ศ. 2551 โดยมีหลักการดังต่อไปนี้
1) สถานศึกษาสามารถสร้างหลักสูตรสถานศึกษาที่เหมาะสมเองได้
2) หลักสูตรสถานศึกษาต้องอยู่บนพื้นฐานของมาตรฐานหลักสูตรของชาติ
3) การพิจารณาระดับการพัฒนาทางจิตใจและร่างกาย
ในระดับประถมศึกษาแบ่งเวลาเรียน 1 คาบเรียน เท่ากับ 45 นาที ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น?และมัธยมศึกษาตอนปลาย?1 คาบเรียน เท่ากับ 50 นาทีในการปรับมาตรฐานหลักสูตรของชาติครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2551 นั้น ในระดับประถมศึกษาได้เพิ่มจำนวนชั่วโมงเรียนประมาณ 10% ในวิชาภาษาญี่ปุ่น สังคมศึกษา คณิตศาสตร์ และพลศึกษา??ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นก็ได้เพิ่มจำนวนชั่วโมงเรียนประมาณ 10% เช่นเดียวกัน?ในวิชาภาษาญี่ปุ่น สังคมศึกษา คณิตศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ พลศึกษา?ส่วนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจำนวนของหน่วยกิตที่บังคับสำหรับจบการศึกษาจะต้องมีอย่างน้อย 74 หน่วยกิต

? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? [youtube]http://www.youtube.com/watch?v=u_gStYePvYE&feature=player_embedded[/youtube]

ชีวิตการเรียนที่น่าสนใจของการเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศญี่ปุ่น
สำหรับหลักสูตรวิทยาศาสตร์ได้มีการสร้างหลักสูตรตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรแต่ละครั้งได้มีจุดเน้นดังต่อไปนี้
หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ปี พ.ศ. 2494 และ 2495
-ผู้เรียนเป็นศูนย์การเรียนรู้
-จากประสบการณ์ในชีวิตประจำวันนำไปสู่การผลิตสื่อการเรียนการสอน
-วิธีการแก้ปัญหาโดยศึกษาวิธีการแก้ปัญหาจากประเทศเพื่อนบ้าน
หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ปี พ.ศ. 2501, 2502 และ 2503
-วิธีการสอนที่เน้นธรรมชาติของการเรียนรู้
-ในระดับประถมศึกษาเน้นหลักการพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
-ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายเน้นเนื้อหาในแต่ละรายวิชา
หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ปี พ.ศ. 2511, 2512 และ 2513
-เน้นกระบวนการสืบเสาะหาความรู้
-การใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์
-ให้ความสำคัญกับการคัดเลือก ออกแบบสื่อการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับหลักการพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ปี พ.ศ. 2517?
-ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ?และวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน
-วิธีการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
-ผู้เรียนเป็นศูนย์การเรียนรู้
หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ปี พ.ศ. 2520, 2521
-การพัฒนาผู้เรียนตามลักษณะธรรมชาติของมนุษย์
-การนำเสนอกิจกรรมในรูปแบบ hands-on การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และมีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้
-เนื้อหาบูรณาการ
หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ปี พ.ศ. 2532
-เพิ่มการทดลองและการสังเกตมากขึ้น
-เพิ่มเนื้อหาเชิงลึกด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันและสังคม
-พิจารณาความหลากหลายของสถานการณ์ที่แท้จริงของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา
หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ปี พ.ศ. 2541
-เน้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่สนุก
-มีชื่อวิชาทางวิทยาศาสตร์ใหม่ เช่น พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์บูรณาการ A วิทยาศาสตร์บูรณาการ B
-ปริมาณเนื้อหาลดลง 30% และจำนวนชั่วโมงเรียนแต่ละวิชาลดลง 10%
-ปรับปรุงการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนเป็นรายบุคคล เพิ่มวิชาเลือกในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และลดวิชาบังคับในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ปี พ.ศ. 2551 และ 2552
-เพิ่มจำนวนชั่วโมงเรียนในระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
-เพิ่มกิจกรรมสืบเสาะหาความรู้ การสังเกต ประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์
-จัดกรอบหลักสูตรวิทยาศาสตร์ในเนื้อหาการสอนเรื่อง พลังงาน อนุภาค ชีวิต และโลก
นอกจากนี้ญี่ปุ่นก็ได้กำหนดจุดประสงค์ของการเรียนวิทยาศาสตร์ในภาพรวมไว้ดังนี้
1) เพื่อให้ผู้เรียนสามารถคุ้นเคย สังเกต ปรากฏการณ์ธรรมชาติ
2) เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถแก้ปัญหา
3) เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เข้าใจปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างถ่องแท้
4) เพื่อให้ผู้เรียนมีวิธีการคิดทางวิทยาศาสตร์
? ? ? ? ? จากจุดเน้นของหลักสูตรวิทยาศาสตร์ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา จะเห็นได้ว่าประเทศญี่ปุ่นได้ปลูกฝังเยาวชนของชาติซึ่งจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตให้รู้จักการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เนื้อหาที่นักเรียนได้เรียนในห้องเรียนสามารถเชื่อมโยงมาสู่การปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวันได้ รวมทั้งเนื้อหาเชิงลึกด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันและสังคม จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่พ่ายแพ้สงครามโลก เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดปรมาณู ทำไมวันนี้ถึงได้กลับกลายมาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก หรือแม้แต่เหตุการณ์สึนามิเมื่อเร็วๆ นี้ ประเทศญี่ปุ่นก็ได้พิสูจน์ให้ประเทศอื่นๆ ได้เห็นแล้วว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่สามารถทำให้คนญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงลักษณะนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้ ? เราคงต้องเจาะลึกเพื่อเรียนรู้ประเทศนี้ให้มากยิ่งขึ้นขอบคุณข้อมูล?: - อรสา ชูสกุล (สสวท.) -Ministry of Education, Culture, Sports, Science and Technology (MEXT) (2011). Principle Guide?Japan?s Educational system. Retrieved from?http://www.mext.go.jp/english/introduction/1033952.htm?(22/05/2012)ขอบคุณรูปภาพ?:?patrickmccoy.typepad.com,?www.degj.com
โดย Chanitsiree Keawood
วันที่ 21 สิงหาคม 2555
พิมพ์หน้านี้