นั้น มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะมีโควต้าจากทางรัฐบาลจีนเพื่อรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนต่อครับ ซึ่งต้องรอดูประกาศของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งว่าจะเปิดรับสมัครทุนช่วงในในช่วงเวลาดังกล่าว ข้อมูลที่น่าสนใจของการสมัครทุน
ซึ่งมีมหาวิทยาลัยจำนวนมากที่รัฐบาลจีนให้โควต้านี้นั้นอาจจะไม่ต้องยื่นคะแนนภาษาจีน (HSK) ในการสมัครในหลายๆมหาวิทยาลัยครับ ซึ่งเปิดโอกาสให้เราคนไทยได้ไปฝึกฝนความรู้ด้านภาษาจีนที่ประเทศจีนเป็นเวลาประมาณ 1-2 ปีด้วยกัน ในระหว่างรับทุนการศึกษาเพื่อรอเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาที่เราได้สมัครไปครับ เรามาดูกันดีกว่าครับว่า ทุน CSC นี้มีลักษณะของการให้ทุนอย่างไร มหาวิทยาลัยแห่งไหนเปิดให้ทุนบ้าง อีกทั้งเคล็ดลับในการเตรียมตัวสมัครเรียนและการเลือกมหาวิทยาลัยจากพี่ๆนักเรียน
ซึ่งทุนที่ทาง CSC มอบให้ก็มีหลายระดับด้วยกันครับ เช่น ทุนระดับปริญญาตรี - โท - เอก, ทุนเรียนภาษา 1 ปี, ทุนวิจัย เป็นต้น
ประเภทของทุนรัฐบาลจีน
1.ทุนรัฐบาล (CSC)?โดยตรง อันนี้ต้องสมัครผ่านมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้พิจารณาและเลือกผู้ที่สมควรได้ทุนตามจำนวนโควต้าที่มหาวิทยาลัยได้ แล้วจากนั้นจึงส่งเรื่องไปยัง CSC พิจารณาคัดเลือกอีกทีหนึ่งครับ ?final result ถึงจะออกมาได้ (มีข้อน่าสนใจที่เราสามารถสมัครกี่มหาวิทยาลัยก็ได้ แต่ข้อแนะนำคือควรเลือกที่เราอยากเข้าเรียนจริงๆ 3-4 อันดับก็พอ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้ทุนเช่นเดียวกับเราครับ อีกทั้งยังเป็นการลดการเตรียมตัวสมัครเรียนอย่างบ้าระห่ำอีกด้วย เดี๋ยวเครียดเอานะครับ ^ ^)
2.ทุนขงจื้อ (Hanban)?เป็นทุนด้านการสอน ผู้เรียนจะต้องเรียนคณะการสอนภาษาจีนเท่านั้น และจะต้องใช้ทุนโดยการเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนครับ ผู้สมัครจะต้องมี HSK ระดับ 6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และเมื่อได้ทุนมาเรียนแล้วจะต้องรักษาผลการเรียนให้อยู่ในเกณฑ์ที่เขากำหนด ถ้าไม่ถึงก็จะโดนตัดทุนได้
3.ทุน AUN หรือ Asean University Network Scholarship
ลิ้งก์นี้เลยครับ >?
http://www.aunsec.org/news/index.php?option=com_content&view=article&id=87&Itemid=678เป็นทุนที่ทางรัฐบาลจีนมอบให้ผ่านองค์กร Asean นอกจากมีมหาวิทยาลัยจากประเทศจีนแล้ว ยังมีพันธมิตรมหาวิทยาลัยอื่นๆในญี่ปุ่น เกาหลี สหภาพยุโรป และประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอีกด้วยครับ ผู้ที่จะได้ทุนนี้จะต้องเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในอาเซียน และแข่งขันสมัครชิงทุนกับนักเรียนเพื่อนบ้านของเราเองนี่แหละครับ โดยแต่ละปีมีผู้ได้ทุนประมาณ 20 คน ทั่วทั้งอาเซียน คนสมัครก็มีเยอะมากครับ โดยสำนักงานใหญ่ของ AUN อยู่ที่อาคารจามจุรี 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ยังมีทุนอื่นๆอีกมากมายครับ ปกติแล้วแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีทุนมหาวิทยาลัย หรือ ทุนของรัฐบาลท้องถิ่นให้กับนักเรียนต่างชาติอยู่แล้ว อาทิเช่น มหาวิทยาลัยชิงหัว ก็จะมีทั้งทุนของมหาวิทยาลัยเอง และ ทุนรัฐบาลท้องถิ่นปักกิ่ง เปิดให้สมัคร (ซึ่งเราก็สามารถสมัครได้ทั้งสองทุนทีเดียว) ก็แล้วแต่เราครับว่าอยากจะสมัครทุนไหน แต่โดยส่วนใหญ่เขาก็สมัครเหวี่ยงแหกันทั้งนั้น คือสมัครมันทุกอันเลย บางคนสมัครทุนรัฐบาลจีนไม่ได้ แต่มาได้ที่ทุนรัฐบาลท้องถิ่นมีเยอะแยะครับ
ถามว่าทุน CSC ทุนมหาวิทยาลัย และทุนรัฐบาลท้องถิ่น แตกต่างกันมั้ย จริงๆแล้วก็ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ครับ มีทุนทั้งแบบที่เป็น ทุนเต็มจำนวนครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพทุกอย่าง (Full scholarship) และ ทุนให้บางส่วน (Partial Scholarship) เหมือนกัน เพียงแต่ว่าค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ (Living allowance) จะต่างกันเท่านั้นเอง ถ้าเกิดอยู่ในเมืองเล็กหน่อย ค่าครองชีพก็จะถูกกว่าเมืองใหญ่ๆอย่างปักกิ่ง หรือ เซี่ยงไฮ้ ครับ
ทุน CSC แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ทุนเต็มจำนวน (Full Scholarship) และ ทุนให้บางส่วน (Partial Scholarship)
ทุนเต็มจำนวนจะครอบคลุมค่าใช้จ่าย?ดังนี้
- ค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนเรียน Registration fee
- ค่าเล่าเรียน Tuition fee
- ค่าทดลองทางวิทยาศาสตร์ Laboratory experiment fee
- เงินช่วยเหลือตอนฝึกงาน Internship fee
- ค่าธรรมเนียมในการเรียนเบื้องต้น Basic learning materials fee
- ค่าที่พักอาศัย Free for accommodation on campus
- ค่าครองชีพ ประมาณ 1,700 หยวน สำหรับปริญญาโท และ 2,000 หยวน สำหรับปริญญาเอก Living allowance (1,700 RMB for Master's degree students, 2,000 RMB for Ph.D students)
- เงินช่วยเหลือหลังการลงทะเบียน One-off settlement subsidy after registration
- บริการรักษาทางการแพทย์และสุขภาพ Outpatient medical service, Comprehensive Medical Insurance and Benefit Plan for International student in China
- ค่าเดินทางระหว่างเมือง One-off inter-city travel subsidy
ทุนบางส่วนจะได้เหมือนกับทุนเต็มจำนวน ยกเว้น One-off settlement subsidy และ One-off inter-city travel subsidy ครับ โดยเมื่อเดินทางถึงมหาวิทยาลัยครั้งแรกหลังจากได้รับทุน จะได้รับเงินก้อนแรก 1,500 RMB ซึ่งอยู่นอกเหนือจากเงินเดือนอีกด้วยครับ
การหาข้อมูลมหาวิทยาลัย และ สาขาที่จะไปศึกษาต่อ
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับตัวเราเองก่อนว่าตั้งใจจะไปศึกษาต่อที่ประเทศจีนจริงรึเปล่าครับ เพราะว่าการสมัครทุนรัฐบาลจีนนั้นต้องใช้ความอดทนและความพยายามอย่างมาก และจะต้องดำเนินการเองทุกขั้นตอน จะไม่สบายเหมือนคนที่มาด้วยทุนส่วนตัวที่มีตันแทน(Agent)คอยดำเนินการให้ การสมัครทุนรัฐบาลจีนต้องใช้ทั้งความอดทนในการทำเอกสาร ความอดทนในการรอที่ยาวนาน
ซึ่งถ้าต้องการมาสมัครเล่นๆ แล้วถ้าเกิดได้ขึ้นได้มาแล้วไม่เอา ก็จะเป็นการตัดโอกาสคนอื่นที่เขาตั้งใจจริง
ถ้าตั้งใจจะมาเรียนต่อจริงๆก็ดำเนินการได้ดังนี้ครับ โดยเริ่มจากการหาข้อมูลก่อนว่าในประเทศจีนมีมหาวิทยาลัยอะไรบ้าง โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่?
http://www.csc.edu.cn/laihua/indexen.aspx?ค้นหาตามความชอบ ตามเมืองที่อยากไป หรือตามอันดับมหาวิทยาลัยครับ
เมื่อได้มหาวิทยาลัยที่เราต้องการแล้ว ก็ดูว่ามหาวิทยาลัยนั้นเปิดสอนคณะ หรือ สาขาวิชาอะไรให้แก่นักเรียนต่างชาติบ้าง มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ของจีนจะมีสอนทั้งที่เป็น สอนเป็นภาษาจีน (Chinese Taught program) และ สอนเป็นภาษาอังกฤษ (English Taught program) ให้แก่นักเรียนต่างชาติ แต่จริงๆแล้ว แนะนำว่าถ้าใครพอมีความรู้ทางด้านภาษาจีนบ้างควรดู website ของมหาวิทยาลัยที่เป็น version ภาษาจีนครับ เพราะจะ update กว่า version ภาษาอังกฤษ และข่าวสารส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่ใน version ภาษาจีนทั้งนั้น
ตรวจสอบวันเปิด-ปิดรับสมัคร
เมื่อได้ข้อมูลมหาวิทยาลัยแล้ว และสาขาที่จะไปศึกษาต่อแล้ว ต่อไปนี้เราก็ต้องคอยเช็กว่ามหาวิทยาลัยจะเปิดรับสมัครทุนรัฐบาลเมื่อไหร่ โดยส่วนใหญ่จะเปิดรับสมัครช่วงเดือนตุลาคม - เมษายน?ไม่เกินนี้แน่นอน โดยมหาวิทยาลัยที่เปิด-ปิดรับสมัครเร็วที่สุดคือ Nanjing University ปิดรับสมัครตั้งแต่ 15 ธันวาคม ซึ่งมหาลัยดังๆส่วนใหญ่ก็จะเปิดปิดรับสมัครเร็วมาก อย่าง Beijing Normal University ปิดรับสมัครตั้งแต่ 1 มีนาคม แต่บางมหาลัยที่ใหญ่ๆอย่าง Zhejiang University หรือ Renmin University ปิดรับสมัครทุนช่วงเดือนเมษายนก็มีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องเช็คดีๆครับ
รายชื่อมหาวิทยาลัยบางส่วนที่เปิดรับสมัครประจำปี 2013
รับ 25 ทุน ?หมดเขต 15 มีนาคม 2556
รับ 10 ทุน หมดเขต 10 เมษายน 2556
มีทุนหลายประเภท หมดเขตประมาณมีนาคม-เมษายน 2556
รับ 35 ทุน หมดเขต 10 เมษายน 2556
รับ 45 ทุน หมดเขต 15 มีนาคม 2556
หมดเขต 28 กุมภาพันธ์ 2556
การเตรียมพร้อมเอกสาร และ ผลสอบHSK
ทุน CSC ไม่ได้กำหนดว่าผู้สมัครจะต้องมีผลสอบ HSK คือไม่มีพื้นฐานก็สมัครขอทุนได้ และมีคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีนได้ทุนนี้กันเป็นจำนวนมาก เพียงแต่ตอนสมัครต้องแสดงความจำนงในใบสมัครว่าขอเรียนภาษาจีน 1 ปี ทางรัฐบาลก็จะมีทุนให้เรียนภาษาจีนก่อน 1 ปี ก่อนเข้าเรียนในระดับปริญญาครับ
HSK มีผลต่อการสมัครทุนหรือไม่ ข้อพิจารณาตรงนี้จะขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยเป็นผู้พิจารณาครับ ไม่มีพื้นฐานก็มีให้ไปเรียนปรับพื้นฐานภาษาก่อน 1 ปี แต่บางมหาวิทยาลัยก็เรียกผลคะแนนภาษาขนาด HSK ระดับ 5-6 แล้วแต่ก็ยังต้องไปเรียนภาษาเพิ่มครับ เพราะว่าการเรียนระดับปริญญาในประเทศจีนค่อนข้างยากมาก แล้วยิ่งถ้าสมัครแบบ Chinese Taught Porgram เราควรมีความรู้พื้นฐานภาษาจีนเป็นอย่างมากการเตรียมตัวเรื่องเอกสารอื่นๆนั้นมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งก็จะบอกอยู่แล้วครับว่าควรเตรียมเอกสารอะไรบ้าง โดยส่วนรวมนอกจากคะแนนผลภาษาแล้วนั้น มีดังต่อไปนี้ครับ
- ผลการเรียน (Transcript)
- ผลการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาล
-?Passport ที่มีอายุของการเดินทางที่จะใช้เหลือมากกว่า 6 เดือน
- จดหมายเรียงความที่อธิบายเกี่ยวกับตัวเราและความสนใจศึกษาต่อ (Statement of Purpose or Personal Statement)
- แผนการศึกษา (Study Plan) ลองดาวน์โหลดแผนการศึกษาและประสบการณ์นักเรียนทุนของนักเรียนทุนรัฐบาลจีนคุณ Tomimoto ดูได้ครับ เขาเขียนเอาไว้ดีมากๆ ต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ ดาวน์โหลดไฟล์แนบ >?
แผนการศึกษา ประสบการณ์
- จดหมายแนะนำตัวจากอาจารย์ที่ปรึกษา (คุณวุฒิระดับศาสตราจารย์)?Recommendation Letters (หลายคนกังวลว่าเมืองไทยมีอาจารย์ที่มีคุณวุฒิระดับนี้น้อยมาก ผมแนะนำว่าเป็นอาจารย์ที่รู้จักเราดีที่สุดก็สามารถใช้ได้ครับ)
นอกจากนี้อาจเตรียมเอกสารเพิ่มเติม (Additional Documents) เพื่อทำให้ผู้ให้ทุนรู้จักตัวตนของเรามากขึ้นครับ
ได้แก่
- ข้อมูลอัตชีวประวัติของเรา Statement of educational biography
- โปรไฟล์การทำงานและการศึกษา Curriculum Vitae (CV)
- ใบปะหน้าซองจดหมายซึ่งมีรายละเอียดของเอกสารในซอง List of documents
- Cover Letter
- บทคัดย่องานวิจัย Abstract ที่เราเคยทำ
หลังจากนั้นก็ถึงขั้นตอนของการส่งเอกสารและรอเอกสารตอบรับกลับซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่งตามระเบียบการของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งครับ เมื่อเราได้รับทุนเราจะได้เอกสารจากทางมหาวิทยาลัยที่เรียกว่า JW ซึ่งมีสองประเภทครับ โดย JW 201 สำหรับผู้ที่ได้รับทุนรัฐบาลจีนเท่านั้น และ JW 202 สำหรับนักเรียนทุนประเภทอื่นๆ
เมื่อได้รับทุนแล้ว ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างเพื่อเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศจีน
- พาสปอร์ต passports (Original and photocopies)
- ใบแจ้งการสอบเข้ามหาวิทยาลัย Admission Notice (Original and photocopies)
- JW 201 (Original and photocopies)
- ผลการตรวจเลือดปลอดโรค physical examination and blood test report (Original and photocopies)
- ฟิล์ม X-Ray
- วีซ่า VISA
- เอกสารผลการศึกษาTranscript (Original and photocopies)
- ใบรับรองการจบการศึกษา (Original and photocopies)
- ใบปริญญา Graduated Diploma (Original and hardcopy)
- รูปถ่าย Passport size photosหวังว่าการเตรียมตัวสมัครทุนรัฐบาลจีนข้างต้น ที่นำมาฝากให้ชาว Interscholarship เตรียมตัวในวันนี้ คงได้รับประโยชน์ในการสมัครทุนไม่มากก็น้อยนะครับ ที่สำคัญต้องขอขอบคุณผู้ให้ข้อมูลทั้งนักเรียนทุนรัฐบาลจีนและชาว Interscholsrshipที่นำข้อมูลมาแบ่งปันเพื่อพัฒนาโอกาสดีๆของนักเรียนไทยให้ได้เรียนต่อในประเทศที่ตั้งใจและมุ่งหวังครับ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสมัครทุนรัฐบาลจีนนะครับ
บทความ?: ต้นซุง eduzones
ขอบคุณข้อมูล?:?
beauhlinglings,?
xuexishanghan.blogspot.com,?
www.csc.edu.cn,?
กลุ่มนักเรียนทุนรัฐบาลจีน, คุณ Rucky Love และนักเรียนทุนรัฐบาลจีนที่แบ่งปันข้อมูลดีๆ