ช่วงนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายของปี ที่บรรดาสถาบันการศึกษาต่างๆจะจัดงานแนะแนวการศึกษาสำหรับน้องๆที่สนใจจะเรียนต่อต่างประเทศ และเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ก็มีงานแนะนำการศึกษาต่อในโรงเรียนประจำ ?2012 Boarding Schools Fair? จัดโดยสมาคมโรงเรียนประจำ หรือ The Association of Boarding Schools (TABS) ที่เน้นการเข้าเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนประจำ ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
โดยมีน้องๆและผู้ปกครองที่สนใจจะส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อ มาร่วมงานกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง พร้อมทั้งบรรดาศิษย์เก่าที่จบการศึกษากลับมาแล้ว ต่างก็ใช้โอกาสนี้เป็นสถานที่นัดแนะเจอเพื่อเก่าสมัยเมื่อครั้งเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ เห็นอย่างนี้แล้ว Interscholarship จึงไม่พลาดโอกาสที่จะเข้าไปเก็บภาพบรรยากาศและสัมภาษณ์ความรู้สึกจากผู้ร่วมงานกลับมาฝากน้องๆที่กำลังสนใจมองหาสถานศึกษาในอนาคตกัน
? ? ? ? ? ? น้องนุชวรา กิจการเดชวุฒิ ?อายุ 11 ปี เรียนอยู่เกรด 6 ที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนเวนต์ เล่าว่า ?ตอนนี้เรียน English Program ค่ะ สนใจที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะด้านบัญชีหรือไฟแนนซ์ เพราะโตขึ้นอยากเป็นนักธุรกิจการเงิน ที่มาในวันนี้ก็ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ที่คุณพ่อเอามาให้ดู เลยสนใจที่จะมามองหาสถานที่เรียนต่อในอนาคต โดยเฉพาะ Boarding Schools ที่โดดเด่นทางด้านบัญชี ก็คิดว่ากลับไปน่าจะได้ข้อมูลแหล่งที่เรียนเยอะขึ้นค่ะ?
?ส่วนตัวอยากให้น้องเค้าได้ไปโรงเรียนประจำอยู่แล้ว หรืออย่างน้อยๆก็ต้องอยู่กับโฮสแฟมมิลี่ เพื่อฝึกเค้า และจะได้คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ ที่ผ่านมาก็ได้ส่งลูกไปเรียนที่สิงคโปร์เองคนเดียวตั้งแต่เค้าอายุ 9 ขวบ และเร็วๆนี้ก็เพิ่งกลับจากโฮมสเตย์ที่นิวซีแลนด์มา 2 เดือน ซึ่งเราค่อนข้างให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษา พยายามช่วยไกด์คอยให้ความเห็นทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และก็ระยะยาว ซึ่งตัวน้องเองก็ค่อนข้างที่จะแฮปปี้กับจุดนี้? คุณพ่อน้องนุชวรา กล่าวเสริม
จากสถิติของ The Association of Boarding Schools (TABS) ในปีที่ผ่านมา ผู้ปกครองไทยส่งลูกหลานไปศึกษาต่อยังโรงเรียนประจำในเครือของ TABS จำนวน 265 คน ซึ่งสูงเป็นอันดับสองของภูมิภาคอาเซียน เป็นรองแค่เพียงเวียดนามเท่านั้น โดยผลการศึกษาเปรียบเทียบเรื่องการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งดำเนินการโดยกลุ่ม อาร์ต แอนด์ ซายน์ (Art & Science) ในสหรัฐอเมริกา พบว่ามีความเกี่ยวพันที่ชัดเจนระหว่างการเรียนในโรงเรียนประจำ กับความสำเร็จหลังจบมหาวิทยาลัย
เพราะว่านักเรียนในโรงเรียนประจำ ให้เวลากับการทำการบ้านหลังเลิกเรียนมากกว่า 17-18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รวมทั้งยังเข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตรมากกว่านักเรียนที่ไม่ได้เรียนโรงเรียนประจำ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายและเล่นกีฬามากถึง 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เมื่อเทียบกับ 9 ชั่วโมงในโรงเรียนเอกชน และ 7 ชั่วโมงในโรงเรียนรัฐบาล การมีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น ดนตรี และจิตรกรรม 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เมื่อเทียบกับ 4 ชั่วโมงในโรงเรียนเอกชน และ 5 ชั่วโมงในโรงเรียนรัฐบาล หรือเข้าร่วมในกิจกรรมของภาครัฐและสโมสรนักเรียน คิดเป็นร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับร้อยละ 27 ของนักเรียนทั่วไป ซึ่งช่วยให้นักเรียนได้มีโอกาสฝึกฝนการช่วยเหลือตัวเอง การเข้าสังคม และการบริหารเวลา ได้ดีกว่านักเรียนทั่วไป
?เคยให้น้องได้เรียนโรงเรียนประจำในประเทศไทยมาก่อน ตอนช่วงประถมศึกษาตอนปลาย ก่อนจะออกมาเรียนโรงเรียนปกติ หลังจากนั้นเราสังเกตเห็นแล้วว่าน้องมีผลการเรียนในระดับที่เหมือนๆกับเด็กทั่วไป จึงคิดว่าชีวิตการเป็นอยู่ของโรงเรียนประจำน่าจะช่วยสอนอะไรเค้าได้เยอะกว่า เลยอยากให้เค้าได้กลับเข้าระบบอีกครั้ง?
คุณแม่น้องศิษฎา ศาสตร์อมร กล่าว ?การให้เค้าไปอยู่ในที่ไกลหูไกลตาแบบนั้น คิดว่าโรงเรียนประจำน่าจะเป็นที่ๆปลอดภัยพอ และตัวน้องเองเค้าก็อยากเรียนมหาวิทยาลัยในอเมริกาด้วย ดังนั้นเพื่อไม่ให้ต้องไปเสียเวลาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกในระดับปริญญาตรี การส่งไปเรียนที่อเมริกาซะตั้งแต่ตอนนี้เลยน่าจะดีกว่า?
?ผมชอบเล่นดนตรีครับ เล่นเครื่องเล่นได้หลายอย่าง แต่ที่ชอบสุดคือเปียโน เลยอยากไปเรียนทางด้านดนตรีโดยตรงครับ ที่ไปคุยกับโรงเรียนภายในงานมาแล้วมีความสนใจเป็นพิเศษก็คือโรงเรียน Chaminade College Preparatory School เพราะมีการสอนด้านนี้ ส่วนในอนาคตก็อยากเข้ามหาวิทยาลัยที่มีคณะเกี่ยวกับเรื่องดนตรีเช่นกันครับ? น้องศิษฎา ศาสตร์อมร กล่าว
งานในปีนี้มีตัวแทนโรงเรียนประจำเดินทางมาร่วมงานในประเทศไทยทั้งสิ้น 24 โรงเรียน โดย
มร. คริสโตเฟอร์ บีสัน ผู้อำนวยการฝ่ายรับเข้าศึกษาและความช่วยเหลือทางการเงิน? ตัวแทนจากโรงเรียน The Athenian School กล่าวว่า ?โรงเรียนประจำเปรียบเหมือนสถานที่เชื่อมต่อนักเรียนจากทั่วทุกมุมโลก นับเป็นโอกาสอันดีที่เด็กๆจะได้เรียนรู้การเข้าสังคม ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และสร้างโอกาสใหม่ๆในชีวิตก่อนที่จะก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัย อย่างที่โรงเรียนของเรามีนักเรียนทั้งหมด 4,070 คน แบ่งเป็นนักเรียนต่างชาติราว 300 คน จาก 15 ประเทศ รวมทั้งจากประเทศไทย เฉลี่ยแล้วแต่ละห้องมีนักเรียนประมาณ 15 คน ซึ่งข้อดีคือนักเรียนมีความสนใจต่อการเรียนมากขึ้น รวมทั้งตัวครูผู้สอนเองยังสามารถสร้างสรรค์สไตล์การสอนใหม่ๆได้ด้วยเช่นกัน โดยในปีที่ผ่านมาเรามีนักเรียนสามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอย่าง UCLA Berkeley และ New York University ได้?
ทางด้าน
มิส แอนนี่ ลุนดาห์ล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด จากสมาคมโรงเรียนประจำ ที่ได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อช่วยประสานการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างนักเรียนไทย ผู้ปกครอง และตัวแทนโรงเรียนประจำในต่างประเทศ กล่าวถึงงานในครั้งนี้ว่า ?เรารู้สึกยินดีมากที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในปีนี้ มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง และเด็กๆ ซึ่งพวกเขาให้ความสำคัญในการพูดคุยกับตัวแทนโรงเรียน ไม่ใช่แค่เพียงมาหยิบโบรชัวร์แล้วกลับ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ผู้ปกครองชาวไทยเข้าใจว่าจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกๆของตนเองได้อย่างไร การเปิดโอกาสให้เด็กได้เข้าศึกษายังโรงเรียนประจำในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก จะช่วงสร้างความได้เปรียบให้กับเด็กๆได้มากกว่าในการที่จะเลือกเข้าศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าในทวีปอเมริกาเหนือ?
?เด็กไทยมีความเฉลียวฉลาด สนุกสนาน โอบอ้อมอารี และมีความสุภาพ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากสำหรับเรา โรงเรียนประจำในเครือของ TABS มีความยินดีที่จะต้อนรับนักเรียนจากประเทศไทย สำหรับใครที่พลาดงานนี้ไปสามารถคลิกเข้าไปดูข้อมูลของโรงเรียนประจำมากมาย ได้ที่
www.BoardingSchools.com ? มิส ลุนดาห์ล กล่าวทิ้งท้าย
นี่ก็เป็นถืออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับน้องๆที่กำลังมองหาสถานที่ศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาในต่างประเทศ แต่อาจจะยังตัดสินใจเลือกไม่ได้ว่าอยากเรียนที่ไหนดี ก็อย่าลืมมองดูโรงเรียนประจำไว้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการตัดสินใจนะครับ
TABS Online Channels:
TABS website
TABS Facebook
TABS YouTube Channel
TABS Twitter?