ความต่างของการศึกษาแต่ละหลักสูตร อินเตอร์ 2 ภาษา (EP) และสามัญ

ความต่างของการศึกษาแต่ละnews.nipa.co.th


หลักสูตร International เดิมมีขึ้นเพื่อรองรับลูกหลานชาวต่างประเทศที่ต้องมาทำงานในประเทศไทย  แบ่งคร่าวๆ ได้ว่าเป็นระบบ English, American, IB  โรงเรียนหลักสูตรเหล่านี้  ที่น่าเชื่อถือต้องมีการขอ Accreditation จากต้นสังกัด  จากเครือไหน ประเทศไหนก็ว่ากันไป  อังกฤษ อเมริกา

ถ้าเด็กจบจากโรงเรียนอินเตอร์หลักสูตรอังกฤษ  ระบบการจัดชั้นเรียน  จำนวนปีที่เรียน  ช่วงเวลาในการจบการศึกษา  ระบบวัดผลประเมินผลและสอบเรียนต่อ  เหมือนในประเทศอังกฤษ  และเหมาะสำหรับนักเรียนที่จะไปต่อประเทศอังกฤษ
ถ้าเด็กจบจากโรงเรียนอินเตอร์หลักสูตรอเมริกัน  ก็เช่นเดียวกัน  ทุกอย่างจะสอดคล้องสำหรับการไปต่ออเมริกา

ส่วน IB อธิบายง่ายๆ ว่า เป็นลูกผสม  จบแล้วจะไปโซนไหนก็ได้  ส่วนมากโรงเรียนไม่ว่าหลักสูตรไหนก็จะมี IB เสริมให้แต่จ่ายเงินเพิ่ม  เพราะต้องสอบวัดผลเพิ่ม
สิ่งแวดล้อม  ถ้าเป็นโรงเรียนอินเตอร์ชื่อดังทั้งหลาย  เปอร์เซ็นต์รับเด็กไทยค่อนข้างน้อย  เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นคือเค้าเปิดเพื่อรับลูกหลานชาติอื่นที่มีความจำเป็นน่ะค่ะ  รับเด็กไทยก็จะพิจารณาพื้นฐานการศึกษาเด็กเป็นพิเศษ เช่น โรงเรียนอินเตอร์ชื่อดังโรงเรียนหนึ่ง  รับเด็กเอเชีย 4% หลานสาวเรา 2 คนไทยแท้แต่เค้าให้เข้า (สอบได้อยู่แล้วแต่สัญชาติไทยอาจถูกกรองออก)  แต่เค้าให้เพราะคุณพ่อเด็กๆ เป็นนายสถานีสายการบินแห่งชาติ  เอาเด็กๆ ไปเรียนโรงเรียนอินเตอร์มาหลายประเทศ  พื้นฐานการศึกษาเลยไม่มีหลักสูตรไทยเลยเพราะความจำเป็น  ทำให้เมื่อมาสมัครโรงเรียนเข้าใจความจำเป็นว่ากลับเข้าหลักสูตรไทยลำบาก  จึงรับ
ไม่มีเคารพธงชาติ สวดมนต์ ปฏิญาณตน  ได้เรียนไทยตามที่แต่ละโรงเรียนบังคับสัญชาติไทยเรียนขั้นพื้นฐาน  จะเป็นอย่างไร  มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับโรงเรียน  ต้องสอนลูกเองเรื่องต่างๆ ที่ต้องการให้เค้ารู้ เช่น ราชวงศ์ไทย  เพื่อนฝรั่งไปเลย (ต้องเข้าใจ)  เพราะสิ่งแวดล้อมเค้าเป็นแบบนั้น  หลานสาวต้องเข้าใจว่าทำไมเค้าอายุุเท่าเพื่อนอเมริกันที่ไปออกเดตแล้วแต่ที่บ้านยังไม่ให้ ฯลฯ  มารยาท ฯลฯ ขึ้นอยู่กับการปลูกฝังที่บ้านค่ะ  ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา  มันไม่ใช่หลักสูตรไทย  เด็กกล้าคิด กล้าแสดงออก คิดวิเคราะห์เก่ง
 


 

เรียบเรียงโดย editor bee
ข้อมูลอ้างอิง พันทิพย์ดอทคอม
โดย Editor Bee
วันที่ 12 เมษายน 2556
พิมพ์หน้านี้